| | |

วุฒิภาวะทางอารมณ์ (EQ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

หลักการและเหตุผล
ความสุขในการทำงาน คือการมีบรรยากาศในการทำงานที่ดี หากพนักงานในหน่วยงานมีการประสานงานที่ดี มีความเข้าใจกัน มีการสื่อสารที่ดีต่อกัน รวมทั้งมีเหตุมีผล รู้จักควบคุมอารมณ์ และมีความเป็นผู้ใหญ่ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นความโต้แย้งกับหัวหน้างาน การผิดใจกับเพื่อนร่วมงานก็จะลดน้อยลงทำให้การทำงานมีความราบรื่น
ดังนั้น การอบรมหลักสูตร “EQเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน”จะทำให้พนักงานของท่านสามารถควบคุมและปรับตนเองให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถเกี่ยวข้องกับบุคคลระดับต่างๆ ได้อย่างกลมกลืนและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้ารับอบรมได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ (EQ)
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับอบรมได้รับทราบจุดอ่อน จุดแข็งในตนเองเกี่ยวกับ EQ และสามารถพัฒนา 2 จุดนี้ ให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ
3. เพื่อให้ผู้เข้ารับอบรมได้พัฒนา EQ จนสามารถเข้ากับบุคคลในระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงานและลูกน้องได้เป็นอย่างดี
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับบุคคลระดับต่างๆ มีความสุขและประสบความสำเร็จในการทำงาน

หัวข้อในการฝึกอบรม
1. ความรู้ ความเข้าใจและความหมายเรื่อง “EQ”
2. องค์ประกอบหลักที่สำคัญของ “EQ”
3. ลักษณะต่างๆ ของอารมณ์บุคคลที่แสดงออก
4. สิ่งชี้วัดความสำเร็จหรือความล้มเหลวเกี่ยวกับ “EQ” ในตัวบุคคล
5. การพัฒนา “EQ” กับอิทธิสู่ความสำเร็จในการทำงาน

วิธีการฝึกอบรม
– บรรยาย, ฝึกปฏิบัติ,กรณีศึกษา

กลุ่มเป้าหมาย
พนักงานทุกระดับในองค์กร

จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม
ประมาณ 20-30 คน/รุ่น

ระยะเวลาในการฝึกอบรม
รุ่นละ 1 วัน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้เข้าอบรมได้เพิ่มพูนทักษะความรู้ความเข้าใจเรื่อง “EQ” มากขึ้น สามารถนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ในการทำงาน
2. ผู้เข้าอบรมสามารถพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์และสามารถปรับตัว อารมณ์ ความรู้สึกได้เข้ากับบุคคลระดับต่างๆ และสถานะการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
3. ผู้เข้าอบรมมีความสุขในการทำงาน และประสบความสำเร็จในการทำงาน

[spacing amount=10″]
ขอรายละเอียดอบรม inhouse training

Similar Posts

  • | | |

    การรายงานและการนำเสนองานอย่างมีประสิทธิภาพ (Reporting and Presentation Skill Development)

    หลักการ และเหตุผล ปัญหาความสับสน ความล่าช้า ความผิดพลาด และความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน มักเกิดจากการรายงานที่ขาดประสิทธิภาพ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของการขาดประสิทธิภาพในการรายงาน คือ การขาดข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ข้อมูลที่มีไม่ตรงกับความต้องการ การเขียนหรือสื่อความไม่ตรงประเด็น ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลไม่เข้าใจ และเกิดความสับสน ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหาร หรือพนักงานทุกคนต้องมีทักษะในรายงาน เพื่อให้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ตามมาคือ ลดปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นในการปฏิบัติงาน กอปกับการบรรยายหลักสูตร หลักสูตร การรายงาน และการนำเสนองานอย่างมีประสิทธิภาพ (Reporting and Presentation Skill Development) จุดเด่นของหลักสูตร 1. บรรยายโดยใช้ตัวอย่างจริง 2. วิทยากรมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมมากว่า 13 ปี และบรรยายให้กับ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทยญี่-ปุ่น) สสท. และสภาอุตสาหกรรม HR Center 3. วิทยากรมีประสบการณ์ในการบรรยายหลักสูตร กิจกรรมไคเซ็น และข้อเสนอแนะให้กับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนหลายแห่ง 4. เน้นการดำเนินการกิจกรรมกลุ่ม (Workshop) ทำให้ผู้เรียนไม่เบื่อ และสนุกกับการทดลองปฏิบัติจริง วัตถุประสงค์ 1….

  • | | |

    Systems Thinking (ความคิดเชิงระบบ)

    จากการวิจัย คนที่ มีเงิน 100 ล้าน ยังไม่จบ ป.4 เป็นจํานวน 70 เปอร์เซ็นต์ คําถามจากการทําวิจัยนี้คือ อะไรเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของคนกลุ่มนี้หลักสูตร Systems Thinking หรือ การคิดเชิงระบบ จะไขความลับ นําไปสู่การปรับแนวคิด ให้เห็นประโยชน์ในการคิดมากกว่าการเรียนแบบท่องจํา ให้ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาความคิดอย่างถูกทางและเป็นประโยชน์ในการครองตน และ ครองงาน หัวข้อหลักสูตร 1 จุดเริ่มต้นแห่งความความคิดเชิงระบบ – ติดตั้งระบบการคิดแห่งการพัฒนาตนเอง – รู้จักและเข้าใจ ปัญหา กับ โอกาส – การค้นหาเป้าหมายของตนเอง – การค้นหาพรสวรรค์ของตนเอง – หลักการฟังพัฒนาสมองสูความเข้าใจ – จัดระบบและกรอบความคิดใหม่ด้วยสติ 2 จัดกระบวนการคิด 2.1 คิดอย่างมีเป้าหมาย 2.2 คิดไปหาเหตุ 2.3 คิดเชิงรุก 2.4 คิดตรงข้าม 2.5 คิดแบบบรูณาการ 2.6 คิดสร้างสรรค์ 2.7…

  • | | |

    ภาวะผู้นำและศิลปะในการบริหารคน

    ความสำคัญ การปฏิบัติงานของพนักงานให้บรรลุเป้าหมายตามแผนงานของหน่วยงานหรือองค์กรนั้น เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานมีความต้องการเป็นอย่างยิ่ง ผู้นำถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีส่วนช่วยผลักดันการทำงานของพนักงานให้สามารถปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้เป็นไปได้ด้วยดีและบรรลุเป้าหมาย ดังนั้น ผู้นำในอุดมคติ จึงควรได้รับการพัฒนาศักยภาพในด้าน หลักการเป็นผู้นำ ศิลปะในการบริหารคน เพื่อสร้างทักษะและทัศนคติต่อพฤติกรรมในการเป็นหัวหน้างานที่ดี เพื่อนำทีมงานของตนไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ และช่วยให้องค์กรเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ทราบถึงแนวปฏิบัติในการเป็นผู้นำที่ทุกคนต้องการ 2. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในการเป็นผู้นำที่เป็นแบบอย่าง 3. เพื่อให้ทราบทักษะต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้นำและสามารถนำไปปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายได้อย่างถูกต้อง สิ่งที่ท่านจะได้รับ 1. ผู้เข้าอบรมจะได้รับทราบถึงแนวทางและวิธีการพัฒนาศักยภาพการเป็นผู้นำที่เป็นแบบอย่าง 2. ผู้เข้าอบรมมีการพัฒนาแนวคิดและรูปแบบในการเป็นผู้นำ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย 3. มีเจตคติที่ดีต่อการบังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อผลักดัน นโยบายและเป้าหมายขององค์กรให้ประสบผลสำเร็จ คุณสมบัติผู้เข้าอบรมและสัมมนา : ระดับหัวหน้างาน/หัวหน้าแผนก/หัวหน้าส่วน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง วิธีการอบรมและสัมมนา : บรรยายสรุป, กรณีศึกษา, วีดีโอ, ฝึกปฏิบัติ,บทบาทสมมุติ หัวข้อการอบรมและสัมมนา วันแรก-เช้า 1. ภาวะผู้นำ (Leadership) • ความหมายของผู้นำและภาวะผู้นำ • แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวกับผู้นำ •…

  • | |

    วิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์การออกแบบเพื่อการประกอบ และ การผลิต

    หลักการและเหตุผล วิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ (Concurrent Engineering, CE) เป็นหนึ่งในปรัชญาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสามารถช่วยให้กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และมีต้นทุนต่ำ เนื่องจากวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ มีแนวทางในการทำงานอย่างเป็นระบบใน การรวบรวม การออกแบบและการผลิตในทุกส่วน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้พิจารณาการออกแบบตั้งแต่ เริ่มต้นไปสู่การควบคุมคุณภาพ และความต้องการอื่นๆไปจนถึงจนถึงการเก็บทิ้งเมื่อหมดอายุ สำหรับหลักสูตรนี้จะได้นำเสนอแนวทางสำคัญบางส่วนในวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ที่สามารถช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมประเทศไทยได้เป็นอย่างดีได้แก่ 1.การออกแบบเพื่อการประกอบ (DFA) ที่สามารถช่วยลดชิ้นส่วนที่ต้องใช้ ในการประกอบเพื่อให้สามารถประกอบได้รวดเร็วสะดวกเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2.การออกแบบเพื่อการผลิต (DFM) ที่เน้นถึงวิธีการในการวัดความสามารถในการผลิตด้วยวิธีการวัดผลทางด้านคุณภาพและปริมาณ ซึ่งวิธีการและแนวทางการประยุกต์ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและผลกำไรให้กับองค์กรด้วยวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์นี้ ท่านสามารถหาคำตอบได้ในหลักสูตรการอบรมครั้งนี้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้อบรมทราบถึงมุมมองโดยรวมของวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ 2. เพื่อให้ผู้อบรมได้รับความรู้แนวทางในการออกแบบเพื่อการประกอบ (DFA) 3. เพื่อให้ผู้อบรมได้รับความรู้แนวทางในการออกแบบเพื่อการผลิต (DFM) 4. เพื่อให้ผู้อบรมได้นำความรู้ที่ได้เรียนไปปรับใช้ในการทำงานภายในทีมออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. เพื่อให้ผู้อบรมได้รับได้มีการฝึกปฏิบัติในการออกแบบเพื่อการประกอบและการผลิต หัวข้อวิชาการอบรม 1. เรียนรู้ประวัติและมุมมองโดยรวมของวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ 2. วัตถุประสงค์ของวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ 3. ประโยชน์ของวิศวกรรมคอนเคอร์เร็นท์ 4. พื้นฐานการออกแบบเพื่อการประกอบ 5. อิทธิพลของการออกแบบกับความสามารถในการประกอบ 6. ระเบียบวิธี DFA 7. เครื่องมือในการออกแบบเพื่อการประกอบ…

  • | | |

    การดำเนินกิจกรรม KAIZEN ให้เกิดความต่อเนื่องและประสบผลสำเร็จ

    หลักการ และเหตุผล ปัญหาส่วนใหญ่ของบริษัทที่มีการดำเนินกิจกรรมไคเซ็น(Kaizen) หรือกิจกรรมข้อเสนอแนะ (Suggestion) ไปซักระยะหนึ่งจะเกิดทางตันทางความคิด คือ “การขาดความร่วมมือของพนักงาน” “แนวทางการแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ ซ้ำของเก่าที่เคยส่งมา” “ไม่มีอะไรแปลกใหม่” “หัวหน้างานคิดให้ลูกน้อง” “เกิดความเบื่อหน่ายจากทั้งคณะกรรมการ และพนักงาน” เป็นต้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การดำเนินกิจกรรมไคเซ็น หรือข้อเสนอแนะไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาทักษะในด้านต่างเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ และเป็นการเติมไฟในการดำเนินกิจกรรมไคเซ็นให้ประสบผลสำเร็จตามที่ได้ตั้งเอาไว้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาการดำเนินกิจกรรมไคเซ็น 2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินกิจกรรมไคเซ็นได้ อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปค้นหาหัวข้อ หรือปัญหา และวิธีการการแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ หัวข้อการบรรยาย 1. ปัญหา และอุปสรรค์ของการดำเนินไคเซ็น และการแก้ไข 2. หัวใจสำคัญ และประโยชน์ของกิจกรรมไคเซ็น เพื่อการปรับปรุงงาน 3. การปรับเปลี่ยนทัศนคติของพนักงานในการดำเนินกิจกรรมไคเซ็นให้ดีขึ้น 4. การคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creative Thinking) และการคิดเชิงระบบ (Systematic Thinking) 5. การค้นหาประเด็นปัญหา และสาเหตุ อย่างเป็นระบบ 6. หลักการวิธีการเขียนข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงให้โดนใจ…

  • | | |

    “การบริการด้วยใจ ” Service mind

    หลักการและเหตุผล ในโลกปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจมีอยู่สูงมาก ธุรกิจต่างๆหันมาแข่งขันกันด้วยการบริการแก่ลูกค้าทั้งนี้งานบริการถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้รับบริการโดยทันที ความประทับใจในการให้บริการมีความสำคัญต่อการดึงดูดลูกค้า และสามารถให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นและ ซื่อสัตย์ต่อการให้บริการขององค์กรนั้นๆ ดั้งนั้นธุรกิจที่เน้นการให้บริการต้องเสริมสร้างและพัฒนาพนักงานของตนให้มีจิตสำนึกในงานบริการขณะเดียวกันพนักงานที่ให้บริการต้องพัฒนาตนเองให้มีจิตสำนึกในงานบริการด้วย เพื่อให้เกิดภาพพจน์ความสุขต่องานที่ปฏิบัติอยู่ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาความรู้พื้นฐานในด้านการบริการ และแนวทางในการให้บริการสำหรับพนักงาน 2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการบริการที่ดีเลิศ 3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถให้บริการที่ดีเลิศกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง หัวข้อในการฝึกอบรม 1. บทนำ – ความหมายของการบริการลูกค้า – ความหมายโดยนัยของการบริการกับสมาชิกทีม – รู้จักลูกค้าของคุณ 2. ค้นหาความต้องการของลูกค้า และช่วยเหลือลูกค้าตามความต้องการนั้น – การสร้างความประทับใจ ทั้งก่อนและหลังการบริการ – การสร้างบรรยากาศเป็นกันเองในการสนทนากับลูกค้า – การสร้างความคุ้นเคยกับลูกค้า – การค้นหาความคาดหวังของลูกค้า – การรับฟังทางออกของปัญหา และการให้บริการลูกค้าตามข้อสรุปที่ตกลงกัน 3. ทักษะระหว่างบุคคลต่อการบริการที่ดีเลิศ – การวางท่าทางภายนอก และการแสดงออกทางใบหน้าที่เหมาะสม – การพูดทวนประโยคของผู้พูดตามความเหมาะสม – การตอบสนองด้วยคำพูดที่ถูกต้องและการให้คำถามที่เหมาะสม – การใช้น้ำเสียงที่เหมาะสมในการสนทนา : การรักษาระดับน้ำเสียง/และการเน้นคำพูดที่ใช้ในการสนทนา – การสร้างทัศนคติที่ดีต่องานบริการ…